สวัสดีครับพี่น้องคริสตชนทุกท่าน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวซักนิด(ส์)นะครับ ผม นิโคลัส ชิศณุพงศ์ ฟักอ่อน หรือใครที่ไม่อยากเรียกชื่อเต็มนิยมเรียกกันว่า "น๊อต" เกิดปี 1987
(อันที่จริงผมบอกปีเพราะไม่อยากบอกอายุจริงๆอ่าคับ คริคริ)
เอาเป็นว่ารู้จักกันคร่าวๆแค่นี้ไปก่อน เรามาเข้าเรื่องสำคัญกันเลยดีกว่านะครับ
"โครงการสายประคำปันชีวิต" คืออะไร
เรามารู้จักโครงการนี้กันก่อนนะครับ
สำหรับโครงการดังกล่าว ผมได้ก่อนตั้งขึ้นมาภายใต้ความคิดที่นึกขึ้นได้ตอนโหนอยู่บนรถเมย์สาย 65 เพื่อกลับบ้านหลังจากฟังมิซซาที่วัดสามเสนจบ...
อาจจะฟังดูแปลกๆนะครับ แต่มันคือเรื่องจริง ผมนึกถึงบรรดาเพื่อนๆในนิวมานาที่ร้อยสายประคำแจกให้กับคนอื่นๆที่มีความศรัทธาอยากได้สายประคำไปสวด ซึ่งผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน แล้ววันหนึ่งผมก็มีโอกาสได้เรียกการทำสายประคำจากเพื่อน แรกก็ยากนะครับ(จะไม่ยากได้ไงก็เราไม่เคยทำเลยนี่หว่า) แต่พอทำไปได้สักพักก็รู้ว่ามันไม่ได้ยากเลย แถมยังเพลินอีกด้วย
ผมก็เลยอยากร้อยให้กับคนที่อยากได้สายประคำบ้าง แต่จู่ๆตอนขึ้นรถเมย์ ผมก็นึกเรื่องร้อยสายประคำแจกขึ้นมา แล้วก็คิดต่อว่า "ถ้าเราร้อยสายประคำแจกเอาไปไว้ตามวัดต่างๆ พร้อมกับวางกล่องรับบริกาคเอาไว้ หากใครใคร่จะหย่อนเงินลงในกล่องก็หย่อน หากไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งถือเป็นการบริจาคเงิน ส่วนเงินที่ได้ก็จะแบ่งไปทำประโยชน์ดังนี้
1.นำเงินที่ได้มาเป็นค่าทำสายประคำครั้งต่อไป
2.หลังจากหักค่าทำสายประคำแล้ว จะเก็บเงินที่เหลือรวบรวมแล้วตั้งเป็นกองทุนเล็กๆขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า คนพิการ และคนยากจน
นี่แหละครับ จุดประสงค์หลักของโครงการ คือการยอมเหนื่อย ยอมเจ็บมือ ยอมเสียเวลา ทำสายประคำเพื่อแลกกับเงินบริจาคเพื่อนำเงินนั้นไปช่วยเหลือผู้อื่น
ผมเองก็ไม่กล้าที่จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี้เป็นนำพระทัยของพระเจ้าหรือเปล่า เพียงแต่ผมอยากทำ และมีความสุขที่ได้ทำ การที่เราได้ให้กับคนที่ไม่เคยได้ มันมีความสุขมากนะครับ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากเชิญชวนพี่น้องคริสตชนที่มีใจอยากช่วยผู้อื่นจริงๆ เพราะงานนี้คุณจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากความสุขจากการได้ช่วยผู้อื่น เงื่อนไขของการเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ให้ของสังคมไม่มีอะไรเลยนอกจากความตั้งใจจริงที่จะทำให้ผู้อื่น แม้ว่า...
*คุณอาจจะทำสายประคำไม่เป็นเลย
*เราอาจต้องเสียเวลา
*อาจทำให้มือบวมเพราะต้องบิดลวด
*อาจต้องควักเงินในกระเป๋าเองในช่วงแรกๆ หรือบางครั้งที่ไม่มีใครบริจาค แต่สายประคำหมดเกลี้ยง
(แต่ผมว่าพี่น้องคริสตชน คนของพระไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ)
*อาจทำให้สายตาคุณสั้นลง
*อาจทำให้คุณต้องปวดเมื่อย หรือไม่ก็เหน็บกิน
*ปัญหาอื่นๆ
เห็นแล้วใช่ไหมครับว่าต้องเกิดอะไรขึ้นสำหรับการที่จะทำความดีเพื่อช่วยคนอื่น มันลำบาก ทรมาน แต่คุณเลือกที่จะทำหรือไม่ มันก้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองนะครับ พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ความตั้งใจจริงในจิตใจของเรา